การทำความเข้าใจบริษัทในเครือ: ประเภท วัตถุประสงค์ และตัวอย่าง
บริษัทย่อยคือบริษัทที่บริษัทอื่นเป็นเจ้าของและควบคุมโดยบริษัทอื่นที่เรียกว่าบริษัทแม่ บริษัทย่อยดำเนินกิจการเป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากบริษัทแม่ แต่บริษัทแม่ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทย่อยและสามารถควบคุมการดำเนินงานและการตัดสินใจของบริษัทย่อยได้
บริษัทในเครือมีหลายประเภท รวมถึง:
1 บริษัทสาขาที่เป็นเจ้าของทั้งหมด: บริษัทสาขาเหล่านี้คือบริษัทในเครือที่บริษัทแม่เป็นเจ้าของทั้งหมด
2 บริษัทสาขาที่เป็นเจ้าของบางส่วน: บริษัทในเครือเหล่านี้เป็นของบริษัทแม่ แต่มีผู้ถือหุ้นรายอื่นด้วย
3 บริษัทย่อยที่เป็นกิจการร่วมค้า: คือบริษัทย่อยที่บริษัทแม่และบริษัทอื่นหนึ่งบริษัทหรือหลายบริษัทเป็นเจ้าของร่วมกัน
4 บริษัทสาขาที่ไม่มีการดำเนินงาน: บริษัทในเครือเหล่านี้ไม่มีการดำเนินธุรกิจที่ดำเนินอยู่ แต่มีอยู่ด้วยเหตุผลทางกฎหมายหรือทางการเงิน
บริษัทในเครือสามารถใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย รวมถึง:
1 การขยายไปสู่ตลาดหรืออุตสาหกรรมใหม่: ด้วยการเข้าซื้อบริษัทสาขาในตลาดหรืออุตสาหกรรมเฉพาะ บริษัทแม่จะสามารถเข้าถึงลูกค้า เทคโนโลยี และความเชี่ยวชาญใหม่ๆ ได้
2 การกระจายธุรกิจ: บริษัทย่อยสามารถป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของบริษัทแม่ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่แตกต่างกัน
3 การเข้าถึงทรัพยากรใหม่: บริษัทสาขาอาจสามารถเข้าถึงทรัพยากรที่ไม่มีให้กับบริษัทแม่ เช่น ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เทคโนโลยี หรือทรัพย์สินทางปัญญา
4 การลดความรับผิดทางภาษี: ด้วยที่ตั้งบริษัทสาขาในเขตอำนาจศาลภาษีต่ำ บริษัทแม่สามารถลดความรับผิดทางภาษีโดยรวมได้
5 การจัดการความเสี่ยง: บริษัทสาขาสามารถใช้เพื่อจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางธุรกิจหรือตลาดเฉพาะเจาะจง
ตัวอย่างของบริษัทที่มีชื่อเสียงที่มีบริษัทในเครือ ได้แก่:
1 Google (Alphabet Inc.): Google มีบริษัทในเครือหลายแห่ง รวมถึง YouTube, Android และ Waze.
2 Amazon (Amazon.com Inc.): Amazon มีบริษัทในเครือหลายแห่ง รวมถึง Zappos, Twitch และ Whole Foods Market3 Apple (Apple Inc.): Apple มีบริษัทในเครือหลายแห่ง รวมถึง Beats Electronics และ FileMaker.
4 Microsoft (Microsoft Corporation): Microsoft มีบริษัทในเครือหลายแห่ง รวมถึง LinkedIn และ Minecraft.
5 Facebook (Facebook Inc.): Facebook มีบริษัทในเครือหลายแห่ง รวมถึง Instagram และ WhatsApp