การทำความเข้าใจอะพอสทรอฟี: การใช้อะพอสทรอฟีเพื่อสร้างคำและวลีใหม่
อะพอสทรอฟีเป็นกระบวนการที่สร้างคำหรือวลีใหม่โดยการแทนที่อะพอสทรอฟี่สำหรับตัวอักษรหรือตัวอักษรที่หายไป มักจะใช้เพื่อบ่งบอกถึงการครอบครองหรือเป็นรูปตัวย่อ ตัวอย่างเช่น "cat's" เป็นรูปแบบอะพอสโทรฟิไลซ์ของ "cat is" และ "can't" เป็นรูปแบบอะพอสโทรฟิไลซ์ของ "cannot"
ในภาษาศาสตร์ คำว่า "อะพอสโทรฟิเซชัน" หมายถึงกระบวนการสร้างคำประเภทเหล่านี้และ วลีที่ใช้เครื่องหมายอะพอสทรอฟี ผลลัพธ์ของกระบวนการนี้เรียกว่า "คำอะโพสโทรฟิไลซ์" หรือ "วลีอะโพสโทรฟิไลซ์"
อะพอสโทรฟิไลซ์สามารถนำมาใช้ได้หลากหลายรูปแบบในภาษา รวมถึง:
1 เพื่อบ่งบอกถึงการครอบครอง: เครื่องหมายอะพอสทรอฟีมักใช้เพื่อแสดงว่าบางสิ่งเป็นของใครบางคนหรืออย่างอื่น ตัวอย่างเช่น "ของเล่นของแมว" บ่งบอกว่าของเล่นนั้นเป็นของแมว
2 เพื่อสร้างการย่อ: เครื่องหมายอะพอสทรอฟีสามารถใช้เพื่อย่อคำหรือวลีให้สั้นลงได้โดยการแทนที่ตัวอักษรที่หายไปด้วยเครื่องหมายอะพอสทรอฟี่ เช่น "can't" ย่อมาจาก "cannot"
3 เพื่อระบุตัวอักษรหรือตัวอักษรที่หายไป: เครื่องหมายอะพอสทรอฟีสามารถใช้เพื่อแทนตัวอักษรหรือตัวอักษรที่หายไปในคำหรือวลี ตัวอย่างเช่น "dogs' tails" บ่งบอกว่าคำว่า "dogs" ไม่มีตัวอักษร "s" ต่อท้าย
4 การสร้างคำนามพหูพจน์: ในบางกรณี เครื่องหมายอะพอสทรอฟีถูกใช้เพื่อสร้างพหูพจน์ของคำนามที่ลงท้ายด้วย -s ตัวอย่างเช่น "หนวดแมว" เป็นรูปแบบพหูพจน์ของ "หนวดแมว" โดยรวมแล้ว การใช้อะพอสทรอฟีเป็นกระบวนการสำคัญในภาษาที่ช่วยให้เราสามารถสร้างคำและวลีใหม่โดยใช้อะพอสทรอฟี สามารถนำมาใช้ได้หลายวิธีเพื่อระบุความครอบครอง รูปแบบการย่อ แทนตัวอักษรหรือตัวอักษรที่หายไป และสร้างคำนามพหูพจน์