ทำความเข้าใจกล่องเสียง: สาเหตุ อาการ และทางเลือกในการรักษา
กล่องเสียงเป็นภาวะที่พบไม่บ่อยซึ่งมีโครงสร้างคล้ายถุงเกิดขึ้นในกล่องเสียง (กล่องเสียง) และเต็มไปด้วยอากาศ อาจทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น เสียงแหบ พูดลำบาก และไอ ตัวเลือกการรักษา ได้แก่ การผ่าตัดเอาถุงออกและซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดกับสายเสียง คำถาม: อะไรคือความแตกต่างระหว่างกล่องเสียงและติ่งเส้นเสียง คำตอบ: กล่องเสียงเป็นโครงสร้างคล้ายถุงที่เกิดขึ้นในกล่องเสียง ในขณะที่ โปลิปสายเสียงเป็นผลพลอยได้จากเนื้อเยื่อจากสายเสียง ทั้งสองอย่างอาจทำให้เกิดอาการคล้ายกัน เช่น เสียงแหบและพูดลำบาก แต่ตำแหน่งและสาเหตุของอาการจะแตกต่างกัน โดยทั่วไปกล่องเสียงจะอยู่ที่บริเวณซูแพรกล็อตติก ในขณะที่ติ่งเส้นเสียงจะอยู่ที่เส้นเสียงเอง
คำถาม: กล่องเสียงมีสาเหตุจากกรดไหลย้อนได้หรือไม่ ?คำตอบ: ใช่ กล่องเสียงมีสาเหตุมาจากกรดไหลย้อนหรือไม่ โรคกรดไหลย้อน (GERD) อาจทำให้กรดในกระเพาะอาหารไหลขึ้นไปในลำคอ และทำให้เนื้อเยื่อของกล่องเสียงระคายเคือง ทำให้เกิดกล่องเสียง สาเหตุอื่นๆ ของกล่องเสียง ได้แก่ การติดเชื้อ การบาดเจ็บ และเนื้องอกที่ไม่ร้ายแรงหรือร้ายแรง คำถาม: กล่องเสียงวินิจฉัยได้อย่างไร คำตอบ: กล่องเสียงมักได้รับการวินิจฉัยผ่านการตรวจร่างกายร่วมกัน การศึกษาเกี่ยวกับการถ่ายภาพ เช่น CT scan หรือ MRI และกล่องเสียง (การตรวจกล่องเสียง) สายเสียงที่มีขอบเขต) ในระหว่างการตรวจ แพทย์อาจใช้กล้องส่องดูกล่องเสียงและมองหาความผิดปกติ เช่น โครงสร้างคล้ายถุงในบริเวณเหนือศีรษะ คำถาม: ทางเลือกในการรักษากล่องเสียงมีอะไรบ้าง ?คำตอบ: ทางเลือกในการรักษากล่องเสียงขึ้นอยู่กับ ขนาด ตำแหน่ง สาเหตุของอาการ ตลอดจนความรุนแรงของอาการ กล่องเสียงขนาดเล็กที่ไม่มีอาการอาจไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา ในขณะที่กล่องเสียงขนาดใหญ่อาจต้องผ่าตัดออก ตัวเลือกการผ่าตัด ได้แก่ การนำถุงน้ำออกด้วยเลเซอร์หรือไมโครเดไบรเดอร์ และซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดกับสายเสียง ในบางกรณี กรดไหลย้อนอาจต้องได้รับการรักษาด้วยยาเพื่อป้องกันการระคายเคืองต่อกล่องเสียง คำถาม: การพยากรณ์โรคของกล่องเสียงมีอะไรบ้าง ?คำตอบ: การพยากรณ์โรคกล่องเสียงมักดีหากวินิจฉัยและรักษาอาการตั้งแต่เนิ่นๆ การผ่าตัดเอาถุงและเนื้อเยื่อที่เสียหายออกสามารถช่วยบรรเทาอาการต่างๆ เช่น เสียงแหบและพูดลำบาก และป้องกันภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว เช่น การอักเสบเรื้อรังและรอยแผลเป็น อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี อาการนี้อาจเกิดขึ้นซ้ำหรือนำไปสู่โรคแทรกซ้อนที่ร้ายแรงกว่า เช่น การอุดตันของทางเดินหายใจ หรือเส้นเสียงเป็นอัมพาต การติดตามผลกับแพทย์เป็นสิ่งสำคัญในการติดตามการเปลี่ยนแปลงหรือภาวะแทรกซ้อน