ทำความเข้าใจกับการบังคับ: ประเภท ตัวอย่าง และการรับรู้
การบีบบังคับคือการใช้กำลังหรือการข่มขู่เพื่อทำให้ใครบางคนทำอะไรบางอย่างที่ขัดต่อความประสงค์ของพวกเขา อาจมีได้หลายรูปแบบ เช่น ความรุนแรงทางร่างกาย การบงการทางอารมณ์ หรือแรงกดดันทางเศรษฐกิจ การบังคับขู่เข็ญอาจเป็นแบบละเอียดอ่อนหรือเปิดเผย และสามารถใช้ได้กับบุคคล กลุ่ม หรือสถาบัน
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของพฤติกรรมการบีบบังคับ:
1 ความรุนแรงทางร่างกาย: การตี ตบ หรือผลักผู้อื่นให้ทำบางอย่าง
2. การจัดการทางอารมณ์: การใช้ความรู้สึกผิด ความอับอาย หรือความกลัวเพื่อควบคุมการกระทำหรือการตัดสินใจของผู้อื่น 3. แรงกดดันทางเศรษฐกิจ: ขู่ว่าจะริบเอาอาชีพหรือทรัพยากรทางการเงินของใครบางคนไป หากพวกเขาไม่ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของคุณ
4 ภัยคุกคาม: การข่มขู่ทั้งโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยายต่อสวัสดิภาพหรือความปลอดภัยของใครบางคน หากพวกเขาไม่ได้ทำสิ่งที่คุณต้องการ
5 การจุดไฟ: บิดเบือนการรับรู้ความเป็นจริงของใครบางคนเพื่อทำให้พวกเขาสงสัยในสติหรือความทรงจำของตนเอง
6 การล่วงละเมิดทางจิตวิทยา: การใช้กลวิธีต่างๆ เช่น การวิพากษ์วิจารณ์ การดูหมิ่น หรือการทำให้อับอายอยู่ตลอดเวลา เพื่อกัดกร่อนความภาคภูมิใจในตนเองของผู้อื่นและควบคุมพฤติกรรมของพวกเขา การแยกตัวทางสังคม: ตัดใครบางคนออกจากเครือข่ายสนับสนุนหรือการเชื่อมต่อทางสังคมเพื่อให้พวกเขาพึ่งพาคุณมากขึ้น
8 การแบล็กเมล์ทางอารมณ์: การใช้ความรู้สึกผิด การสงสารตัวเอง หรือการตกเป็นเหยื่อเพื่อชักจูงผู้อื่นให้ทำสิ่งที่คุณต้องการ
9 พฤติกรรมก้าวร้าวและเฉยเมย: การแสดงความโกรธหรือความไม่พอใจโดยอ้อมผ่านพฤติกรรมที่ละเอียดอ่อน เช่น การบูดบึ้ง การผัดวันประกันพรุ่ง หรือการก่อวินาศกรรม10 การรุกรานเล็กน้อย: การแสดงความคิดเห็นหรือการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ที่ละเอียดอ่อนซึ่งทำให้บุคคลอื่นดูหมิ่นหรือเสื่อมเสียโดยพิจารณาจากตัวตนหรือภูมิหลังของพวกเขา สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าการบังคับขู่เข็ญอาจเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและอาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจดจำได้เสมอไป นอกจากนี้ยังสามารถกระทำได้โดยผู้ที่อยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจหรือผู้มีอำนาจ เช่น เจ้านาย ครู หรือผู้ปกครอง หากคุณสงสัยว่าคุณหรือบุคคลอื่นกำลังถูกบีบบังคับ สิ่งสำคัญคือต้องขอความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากบุคคลหรือองค์กรที่เชื่อถือได้