ทำความเข้าใจกับคำเสริมในภาษา
Adfix เป็นคำที่ใช้ในภาษาศาสตร์เพื่ออ้างถึงคำต่อท้ายที่เพิ่มให้กับคำหรือวลีเพื่อแก้ไขความหมายหรือฟังก์ชันทางไวยากรณ์ คำเสริมสามารถเป็นคำนำหน้า คำต่อท้าย หรือคำเสริม และสามารถบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ทางไวยากรณ์ต่างๆ เช่น กาล กรณี ตัวเลข หรือเพศ
ตัวอย่างเช่น ในภาษาอังกฤษ คำนำหน้า "un-" เป็นคำเสริมที่ปฏิเสธความหมายของคำ เช่นเดียวกับใน “ไม่มีความสุข” (หมายถึง “ไม่มีความสุข”) ในทำนองเดียวกัน คำต่อท้าย "-able" เป็นคำเสริมที่บ่งบอกถึงความสามารถหรือความสามารถ เช่นเดียวกับคำว่า "teachable" (หมายถึง "สามารถที่จะสอนได้") คำต่อท้ายมีความสำคัญในภาษาเพราะทำให้ผู้พูดสามารถสร้างคำและความหมายใหม่โดยการเพิ่ม หน่วยคำขนาดเล็กให้เป็นคำที่มีอยู่ นอกจากนี้ยังช่วยถ่ายทอดข้อมูลทางไวยากรณ์และสามารถใช้เพื่อระบุความสัมพันธ์ระหว่างคำในประโยค
affixer คือหน่วยคำที่ยึดติดกับหน่วยคำอื่นที่เรียกว่า root เพื่อสร้างคำหรือวลีใหม่ คำลงท้ายเป็นหน่วยคำที่ถูกผูกไว้ ซึ่งหมายความว่าไม่สามารถยืนอยู่คนเดียวเป็นคำที่เป็นอิสระได้ แต่ต้องแนบกับรากศัพท์เพื่อสื่อความหมาย
ตัวอย่างของคำลงท้าย ได้แก่:
* คำต่อท้าย เช่น -ness, -hood, -dom ซึ่งเพิ่มคำใหม่ ความหมายหรือการทำงานของรากศัพท์ (เช่น "ความสุข" "วัยเด็ก" "อาณาจักร")
* คำนำหน้า เช่น un- , non- , anti- ซึ่งเปลี่ยนความหมายของรากศัพท์หรือบ่งบอกถึงการต่อต้าน (เช่น "ไม่มีความสุข" "ไม่รุนแรง" "ต่อต้านสงคราม")
* คำลงท้ายแบบผันคำ เช่น -s, -ed, -ing ซึ่งบ่งบอกถึงกาล ตัวเลข หรือบุคคลในคำกริยาและคำนาม (เช่น "jump," "jumps," "jumped")
Affixes สามารถใช้เพื่อสร้างคำศัพท์ใหม่ เพื่อระบุฟังก์ชันทางไวยกรณ์ หรือเพื่อถ่ายทอดความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ ของความหมาย เป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างภาษาและสามารถช่วยสร้างคำศัพท์ที่หลากหลายและสื่อความหมายได้
Extraposition เป็นปรากฏการณ์ทางภาษาศาสตร์ที่วลีหรือประโยคถูกย้ายจากตำแหน่งเดิมในประโยคไปยังตำแหน่งหลังคำกริยา สิ่งนี้สามารถเปลี่ยนการเน้นหรือการเน้นของประโยค และยังส่งผลต่อโครงสร้างไวยากรณ์ของประโยคด้วย
ตัวอย่างเช่น ลองพิจารณาประโยคต่อไปนี้:
"ฉันชอบกินพิซซ่า"
ในประโยคนี้ วลี "eating pizza" อยู่ใน ตรงกลางประโยคและเป็นกรรมของกริยารัก ถ้าเราย้ายวลี "eating pizza" ไปไว้ท้ายประโยค เช่น:
"I love pizza eating"
การเน้นของประโยคเปลี่ยนไป ตอนนี้ ความสนใจอยู่ที่การกระทำของการรับประทานพิซซ่า มากกว่าการที่ผู้พูดชอบพิซซ่า นี่คือตัวอย่างของการกล่าวเกินจริง
การกล่าวเกินจริงสามารถใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย เช่น เพื่อเพิ่มการเน้นหรือเพื่อชี้แจงความหมายของประโยค เป็นคุณสมบัติทั่วไปของหลายภาษา และสามารถนำมาใช้ได้หลายวิธีเพื่อสร้างเอฟเฟกต์ที่แตกต่างกัน