ทำความเข้าใจกับไวยากรณ์ในภาษา
Ingrammaticism หมายถึงการใช้โครงสร้างทางไวยากรณ์ที่ไม่ปกติของภาษา มักพยายามสร้างน้ำเสียงที่ "เป็นวิชาการ" หรือ "เป็นทางการ" มากขึ้น ลัทธิอิงไวยากรณ์สามารถมองว่าเป็นข้อผิดพลาดหรือการใช้ที่ไม่เป็นมาตรฐาน และอาจทำให้ผู้ฟังหรือผู้อ่านเข้าใจความหมายที่ตั้งใจไว้ของประโยคได้ยาก
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างบางส่วนของไวยากรณ์:
1 การใช้กริยากาลที่ไม่ถูกต้อง: "ฉันกินอาหารเช้าเมื่อเช้านี้" แทนที่จะเป็น "ฉันกินอาหารเช้าเมื่อเช้านี้"
2 ใช้สรรพนามผิด: "ฉันและเพื่อนไปที่ร้าน" แทน "เพื่อนของฉันและฉันไปที่ร้าน"
3. การใช้ลำดับคำที่ไม่ถูกต้อง: "สุนัขไล่ตามหางของมัน" แทนที่จะเป็น "สุนัขไล่ตามหางของมัน"
4. การใช้คำหรือวลีที่ไม่จำเป็น: "ฉันกำลังจะไปที่ร้าน" แทน "ฉันกำลังจะไปที่ร้าน".
5. การใช้ภาษาที่เป็นทางการมากเกินไป: "ฉันตั้งใจที่จะซื้อรายการนี้" แทนที่จะเป็น "ฉันต้องการซื้อรายการนี้"
หลักไวยากรณ์อาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น การขาดความคุ้นเคยกับภาษา ความปรารถนาที่จะออกเสียง เป็นทางการหรือเชิงวิชาการมากขึ้น หรือเป็นเพียงความผิดพลาด สามารถพบได้ทั้งในภาษาพูดและภาษาเขียน และผู้พูดทุกภาษาและทุกระดับความสามารถสามารถใช้ได้ สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าไม่ใช่ว่าการใช้งานที่ไม่ได้มาตรฐานทั้งหมดจะถือเป็นไวยากรณ์ การใช้ที่ไม่ได้มาตรฐานบางอย่างอาจยอมรับได้อย่างสมบูรณ์ในบางบริบทหรือภาษาถิ่น และอาจเหมาะสมกว่าการใช้มาตรฐานในบางสถานการณ์ด้วยซ้ำ ตัวอย่างเช่น การใช้คำว่า "gona" แทน "going to" อาจเป็นเรื่องธรรมดาและเป็นธรรมชาติในภาษาอังกฤษบางภาษามากกว่าคำว่า "going to" โดยทั่วไป สิ่งสำคัญคือต้องใช้ภาษาที่เหมาะสมกับบริบทและผู้ฟัง คุณกำลังสื่อสารกับ แม้ว่าการคำนึงถึงการใช้งานมาตรฐานจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่การคำนึงถึงความต้องการและความชอบของผู้ฟังหรือผู้อ่านของคุณด้วยก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน