ทำความเข้าใจกับ Relayers ในการกระจายอำนาจทางการเงิน (DeFi)
ผู้ส่งต่อคือหน่วยงานที่อำนวยความสะดวกในการโอนสินทรัพย์ระหว่างสองฝ่ายในลักษณะกระจายอำนาจ โดยไม่ต้องควบคุมทรัพย์สินด้วยตนเอง กล่าวอีกนัยหนึ่ง ผู้ส่งต่อทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเปิดใช้งานการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์บนบล็อกเชน แต่ไม่ได้ถือครองสินทรัพย์และไม่มีความสามารถในการแก้ไขธุรกรรมเพียงฝ่ายเดียว
Relayers มักใช้ในโปรโตคอลการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) โดยที่อนุญาตให้ผู้ใช้ซื้อขายสินทรัพย์โดยไม่จำเป็นต้องมีคนกลางจากส่วนกลาง ตัวอย่างเช่น ผู้ส่งต่ออาจอำนวยความสะดวกในการโอน Ether (ETH) จากกระเป๋าสตางค์ของผู้ใช้รายหนึ่งไปยังกระเป๋าสตางค์ของผู้ใช้รายอื่น โดยไม่ต้องควบคุม ETH เอง ประโยชน์หลักของการใช้รีเลย์คือ:
1 การกระจายอำนาจ: ด้วยการใช้รีเลย์ ผู้ใช้สามารถซื้อขายสินทรัพย์ในลักษณะกระจายอำนาจ โดยไม่ต้องพึ่งตัวกลางจากส่วนกลาง สิ่งนี้จะช่วยรักษาความปลอดภัยและความสมบูรณ์ของเครือข่ายบล็อคเชน
2 ความไม่ไว้วางใจ: ผู้ส่งต่อไม่สามารถควบคุมสินทรัพย์ที่มีการซื้อขายได้ ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้สามารถเชื่อถือกระบวนการทำธุรกรรมโดยไม่ต้องเชื่อถือหน่วยงานกลาง
3 ความสามารถในการปรับขนาด: รีเลย์สามารถช่วยเพิ่มความสามารถในการปรับขนาดของโปรโตคอล DeFi โดยการเปิดใช้ธุรกรรมที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น
4 ความเป็นส่วนตัว: ด้วยการใช้รีเลย์ ผู้ใช้สามารถรักษาความเป็นส่วนตัวและไม่เปิดเผยตัวตนในระหว่างการทำธุรกรรม เนื่องจากผู้ส่งต่อไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตนได้ โดยสรุปแล้ว ผู้ส่งต่อคือหน่วยงานที่อำนวยความสะดวกในการโอนสินทรัพย์ในลักษณะกระจายอำนาจ โดยไม่ต้องมี การควบคุมทรัพย์สินด้วยตนเอง โดยทั่วไปแล้วรีเลย์จะใช้ในโปรโตคอล DeFi เพื่อเปิดใช้งานธุรกรรมที่ไม่น่าเชื่อถือ ปรับขนาดได้ และเป็นส่วนตัว



