ทำความเข้าใจการยืนยันตัวตน (IDV) และความสำคัญในการป้องกันการฉ้อโกง
IDV ย่อมาจากการยืนยันตัวตน เป็นกระบวนการในการตรวจสอบตัวตนของบุคคล โดยทั่วไปผ่านการใช้บัตรประจำตัวที่ออกโดยรัฐบาล เช่น หนังสือเดินทางหรือใบขับขี่ วัตถุประสงค์ของ IDV คือเพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลคือบุคคลที่พวกเขาอ้างว่าเป็น และเพื่อป้องกันการฉ้อโกงหรือกิจกรรมที่เป็นอันตรายอื่นๆ
มีหลายวิธีที่ใช้ใน IDV รวมถึง:
1 การตรวจสอบเอกสาร: สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบความถูกต้องของบัตรประจำตัวที่ออกโดยหน่วยงานราชการ เช่น หนังสือเดินทาง ใบขับขี่ และสูติบัตร
2 การยืนยันไบโอเมตริกซ์: สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการใช้ข้อมูลไบโอเมตริกซ์ เช่น ลายนิ้วมือ การจดจำใบหน้า หรือการสแกนม่านตา เพื่อยืนยันตัวตนของแต่ละบุคคล
3 การรับรองความถูกต้องด้วยสองปัจจัย: สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการใช้การระบุตัวตนสองรูปแบบที่แตกต่างกัน เช่น รหัสผ่านและ ID ทางกายภาพ เพื่อยืนยันตัวตนของแต่ละบุคคล
4 การเรียนรู้ของเครื่องและปัญญาประดิษฐ์: เทคโนโลยีเหล่านี้สามารถใช้เพื่อวิเคราะห์รูปแบบในข้อมูลและระบุการฉ้อโกงหรือความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้5 การตรวจสอบโดยมนุษย์: สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการให้ผู้ตรวจสอบที่เป็นมนุษย์ตรวจสอบความถูกต้องของกระบวนการ IDV
IDV ถูกนำมาใช้ในการใช้งานที่หลากหลาย รวมถึง:
1 บริการทางการเงิน: ธนาคารและสถาบันการเงินอื่นๆ ใช้ IDV เพื่อป้องกันการฉ้อโกงและรับรองว่าลูกค้าคือสิ่งที่พวกเขาอ้างว่าเป็น
2 อีคอมเมิร์ซ: ผู้ค้าปลีกออนไลน์ใช้ IDV เพื่อป้องกันธุรกรรมที่ฉ้อโกงและรับรองว่าลูกค้าถูกต้องตามกฎหมาย
3 บริการภาครัฐ: รัฐบาลใช้ IDV เพื่อยืนยันตัวตนของพลเมืองและป้องกันการฉ้อโกงในโครงการของรัฐบาล
4 การดูแลสุขภาพ: โรงพยาบาลและผู้ให้บริการด้านสุขภาพใช้ IDV เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ป่วยคือสิ่งที่พวกเขาอ้างว่าเป็น และเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วย
5 การเดินทาง: สนามบินและศูนย์กลางการเดินทางอื่นๆ ใช้ IDV เพื่อยืนยันตัวตนของนักเดินทางและป้องกันการก่อการร้าย



