ทำความเข้าใจซับเน็ต: ประโยชน์ ประเภท และการจัดการ
ซับเน็ตเป็นส่วนย่อยของเครือข่ายขนาดใหญ่ ซึ่งแบ่งออกเป็นเครือข่ายขนาดเล็ก โดยแต่ละเครือข่ายมีช่วงที่อยู่เฉพาะของตัวเอง ซึ่งช่วยให้การกำหนดเส้นทางการรับส่งข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้นและการจัดการเครือข่ายที่ดีขึ้น ซับเน็ตถูกสร้างขึ้นโดยการแบ่งเครือข่ายขนาดใหญ่ออกเป็นส่วนเล็กๆ โดยแต่ละส่วนจะมีชุดที่อยู่ของตัวเอง ซึ่งสามารถทำได้โดยใช้ซับเน็ตมาสก์ ซึ่งระบุช่วงของที่อยู่ที่เป็นของแต่ละเครือข่ายย่อย ตัวอย่างเช่น หากเรามีเครือข่ายขนาดใหญ่ที่มีโฮสต์ 1,000 โฮสต์ เราอาจแบ่งเครือข่ายออกเป็นสามซับเน็ต แต่ละเครือข่ายมี 300 โฮสต์ แต่ละซับเน็ตจะมีช่วงที่อยู่เฉพาะของตัวเอง และการรับส่งข้อมูลระหว่างซับเน็ตจะถูกส่งผ่านเราเตอร์
ซับเน็ตมีประโยชน์หลายประการ:
1 การจัดการเครือข่าย: ซับเน็ตช่วยให้ผู้ดูแลระบบเครือข่ายจัดการเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากพวกเขาสามารถกำหนดที่อยู่ที่แตกต่างกันให้กับส่วนต่างๆ ของเครือข่ายได้
2 ความปลอดภัย: โดยการแบ่งเครือข่ายออกเป็นส่วนเล็กๆ จะทำให้ง่ายต่อการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัย เช่น ไฟร์วอลล์และการควบคุมการเข้าถึง3 ความสามารถในการปรับขนาด: ซับเน็ตช่วยให้เพิ่มโฮสต์ใหม่เข้ากับเครือข่ายได้ง่ายขึ้น เนื่องจากสามารถสร้างซับเน็ตใหม่ได้ตามต้องการ
4 ประสิทธิภาพเครือข่าย: ซับเน็ตสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพเครือข่ายโดยการลดปริมาณการรับส่งข้อมูลที่ต้องกำหนดเส้นทางระหว่างส่วนต่างๆ ของเครือข่าย เครือข่ายย่อยมีหลายประเภท รวมถึง:
1 ซับเน็ตแบบไม่มีคลาส: เหล่านี้เป็นซับเน็ตที่ไม่ได้ใช้รูปแบบการกำหนดแอดเดรสแบบคลาส แต่ใช้รูปแบบการกำหนดแอดเดรสที่ยืดหยุ่นกว่าซึ่งช่วยให้ใช้แอดเดรสได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2 ซับเน็ตแบบคลาสฟูล: เหล่านี้เป็นซับเน็ตที่ใช้รูปแบบการกำหนดแอดเดรสแบบคลาส ซึ่งแบ่งเครือข่ายออกเป็นส่วนเล็กๆ ตามออคเต็ตแรกของที่อยู่ IP3 ซับเน็ต VLSM (ซับเน็ตมาสก์ความยาวแปรผัน): ซับเน็ตเหล่านี้เป็นซับเน็ตที่ใช้ซับเน็ตมาสก์ที่มีความยาวผันแปรได้ ซึ่งช่วยให้เครือข่ายย่อยมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
4 เครือข่ายย่อย CIDR (Classless Inter-Domain Routing): เครือข่ายย่อยเหล่านี้ใช้รูปแบบการกำหนดที่อยู่แบบไม่มีคลาสและซับเน็ตมาสก์ที่มีความยาวผันแปรได้



