ทำความเข้าใจเกี่ยวกับชีวประวัติ: การออกเดทหินกับฟอสซิล
Biostratigraphy เป็นสาขาหนึ่งของ stratigraphy ที่มุ่งเน้นไปที่การศึกษาบันทึกฟอสซิลในหินเพื่อกำหนดอายุและสภาพแวดล้อมการทับถมของพวกมัน ขึ้นอยู่กับหลักการที่ว่าฟอสซิลชนิดต่างๆ จะถูกพบในช่วงเวลาทางธรณีวิทยาที่เฉพาะเจาะจง และโดยการวิเคราะห์ฟอสซิลที่มีอยู่ในหน่วยหิน นักบรรพชีวินวิทยาสามารถระบุอายุของมันและวางไว้ภายในช่วงเวลาทางธรณีวิทยาได้ หน่วยระหว่างสถานที่ต่าง ๆ และสร้างประวัติศาสตร์ทางธรณีวิทยาของพื้นที่ขึ้นมาใหม่ นอกจากนี้ยังใช้เพื่อระบุและระบุวันที่แหล่งกักเก็บน้ำมันและก๊าซ แหล่งถ่านหิน และทรัพยากรแร่อื่นๆ ในด้านชีวประวัติ ฟอสซิลถูกใช้เป็นเครื่องมือในการหาอายุของหิน เนื่องจากเป็นแหล่งบันทึกวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบนโลกเมื่อเวลาผ่านไป ฟอสซิลชนิดต่างๆ ถูกพบในช่วงเวลาทางธรณีวิทยาที่เฉพาะเจาะจง และโดยการวิเคราะห์ฟอสซิลที่มีอยู่ในหน่วยหิน นักบรรพชีวินวิทยาสามารถระบุอายุของมันและวางไว้ภายในช่วงเวลาทางธรณีวิทยาได้ มีหลายวิธีที่ใช้ในการเขียนชีวประวัติจนถึงอายุของหิน รวมทั้ง:
1. การกระจายพันธุ์ฟอสซิล: ด้วยการศึกษาการกระจายพันธุ์ฟอสซิลในหน่วยหินต่างๆ นักบรรพชีวินวิทยาสามารถระบุอายุและจัดวางพวกมันไว้ภายในช่วงเวลาทางธรณีวิทยา
2 ความอุดมสมบูรณ์ของฟอสซิล: ความอุดมสมบูรณ์ของฟอสซิลบางชนิดในหน่วยหินสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับอายุของหน่วยหินได้ ตัวอย่างเช่น หากหน่วยหินมีฟอสซิลชนิดใดชนิดหนึ่งที่มีความเข้มข้นสูง ก็มีแนวโน้มว่าจะมีอายุมากกว่าหน่วยที่มีความเข้มข้นของชนิดฟอสซิลนั้นต่ำกว่า
3 การรวบรวมฟอสซิล: การมีอยู่ของการผสมพันธุ์ฟอสซิลชนิดต่างๆ ในหน่วยหินสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับอายุและสภาพแวดล้อมการสะสมของมัน
4 โซนชีวสตราติกราฟิก: ด้วยการระบุชนิดฟอสซิลหรือส่วนประกอบเฉพาะที่พบในช่วงเวลาทางธรณีวิทยาที่เฉพาะเจาะจง นักบรรพชีวินวิทยาสามารถสร้างโซนชีวสตราติกราฟิกที่สามารถนำมาใช้ในการนัดพบหินได้
5 การวิเคราะห์ทางเคมี: การวิเคราะห์ทางเคมีของฟอสซิลสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับอายุและสภาวะที่เกิดขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น องค์ประกอบไอโซโทปออกซิเจนของกระดูกฟอสซิลสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับอุณหภูมิและความชื้นของสภาพแวดล้อมที่สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ โดยสรุป การเขียนชีวประวัติเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการหาอายุของหินและสร้างประวัติศาสตร์ทางธรณีวิทยาของพื้นที่ขึ้นมาใหม่ ด้วยการวิเคราะห์ฟอสซิลที่อยู่ในหน่วยหิน นักบรรพชีวินวิทยาสามารถระบุอายุและวางไว้ในช่วงเวลาทางธรณีวิทยา ช่วยให้เราเข้าใจวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบนโลกเมื่อเวลาผ่านไปได้ดีขึ้น