mobile theme mode icon
theme mode light icon theme mode dark icon
Random Question สุ่ม
speech play
speech pause
speech stop

ทำความเข้าใจโรค Phacosclerosis: สาเหตุ อาการ และทางเลือกในการรักษา

Phacosclerosis คือภาวะที่กระจกตาซึ่งเป็นชั้นนอกที่ชัดเจนของดวงตา กลายเป็นสีขุ่นและทึบแสง สิ่งนี้อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นและตาบอดได้หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา คำว่า "phacosclerosis" มาจากคำภาษากรีก "phascolarctos" ที่แปลว่า "เหมือนหมี" และ "sklere" ที่แปลว่า "แข็ง" หมายถึงการปรากฏตัวของจุดที่มีเมฆมากในกระจกตาซึ่งอาจมีลักษณะคล้ายขนของหมี

โรค Phacosclerosis อาจเกิดจากหลายปัจจัย ได้แก่:

1 อายุมากขึ้น: เมื่อเราอายุมากขึ้น กระจกตาจะมีความโปร่งใสน้อยลงและมีแนวโน้มที่จะเกิดฝ้ามากขึ้น
2 การบาดเจ็บหรือการบาดเจ็บ: การถูกตีที่ตาหรือศีรษะอาจทำให้เกิดภาวะต้อกระจกได้ 3. การติดเชื้อ: การติดเชื้อบางชนิด เช่น เริมหรือวาริเซลลา-ซอสเตอร์ อาจทำให้เกิดภาวะphacosclerosis ได้
4 โรค: ภาวะต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต้อหินได้5 พันธุศาสตร์: บางคนอาจมีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะสลายพังผืดมากกว่าเนื่องจากองค์ประกอบทางพันธุกรรม

อาการของการเกิดภาวะสลายพังผืดอาจรวมถึง:

1 การมองเห็นไม่ชัด2. การมองเห็นมีเมฆมากหรือมัว 3. การมองเห็นสองครั้ง
4. ความไวต่อแสง
5. อาการแดงและอักเสบในดวงตาหากคุณพบอาการใดๆ เหล่านี้ สิ่งสำคัญคือต้องไปพบจักษุแพทย์โดยเร็วที่สุดเพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม ตัวเลือกการรักษา Phacosclerosis อาจรวมถึง:

1 แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์: เพื่อแก้ไขปัญหาการมองเห็นที่เกิดจากphacosclerosis.
2 การใช้ยา: เพื่อรักษาภาวะพื้นฐานที่อาจมีส่วนทำให้เกิดภาวะสลายต้อกระจก เช่น การติดเชื้อหรือการอักเสบ
3 การผ่าตัดด้วยเลเซอร์: เพื่อขจัดรอยขุ่นในกระจกตาและปรับปรุงการมองเห็น
4 การปลูกถ่ายกระจกตา: ในกรณีที่รุนแรงของภาวะ Phacosclerosis อาจจำเป็นต้องปลูกถ่ายกระจกตาเพื่อทดแทนกระจกตาที่เสียหายด้วยกระจกตาที่มีสุขภาพดี

Knowway.org ใช้คุกกี้เพื่อให้บริการที่ดีขึ้นแก่คุณ การใช้ Knowway.org แสดงว่าคุณยอมรับการใช้คุกกี้ของเรา สำหรับข้อมูลโดยละเอียด คุณสามารถอ่านข้อความ นโยบายคุกกี้ ของเรา close-policy