ทำความเข้าใจไซนัสอักเสบ: สาเหตุ อาการ และทางเลือกในการรักษา
ไซนัสอักเสบคือการอักเสบหรือการติดเชื้อของโพรงอากาศภายในกะโหลกศีรษะที่เรียกว่าไซนัส อาจเกิดจากไวรัส แบคทีเรีย ภูมิแพ้ หรือเชื้อรา และอาจเป็นแบบเฉียบพลันหรือเรื้อรัง อาการต่างๆ ได้แก่ ปวดศีรษะ ปวดใบหน้า น้ำมูกไหล และมีของเหลวสีเหลืองหรือสีเขียวออกจากจมูก ตัวเลือกการรักษามีตั้งแต่ยาปฏิชีวนะ ยาลดน้ำมูก ไปจนถึงการผ่าตัด ไซนัสอักเสบเป็นอาการทั่วไปที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนหลายล้านคนทั่วโลก อาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น การติดเชื้อไวรัส การติดเชื้อแบคทีเรีย ภูมิแพ้ และการติดเชื้อรา อาการของโรคไซนัสอักเสบอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ อาการที่พบบ่อย ได้แก่:
* ปวดศีรษะ
* ปวดใบหน้าหรือความดัน
* คัดจมูกหรือคัดจมูก
* มีของเหลวสีเหลืองหรือเขียวออกจากจมูก
* สูญเสียการได้กลิ่นหรือรับรส
* ไอโดยเฉพาะตอนกลางคืน เหนื่อยล้า * ไข้ * เจ็บคอ
ไซนัสอักเสบเฉียบพลันเกิดขึ้นฉับพลันและสั้น ๆ -การติดเชื้อระยะยาวที่อาจเกิดจากไวรัส แบคทีเรีย หรือเชื้อรา โดยทั่วไปจะใช้เวลาน้อยกว่าสี่สัปดาห์และสามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ ยาลดน้ำมูก และยาแก้ปวด ในทางกลับกัน ไซนัสอักเสบเรื้อรังเป็นภาวะระยะยาวที่สามารถเกิดขึ้นได้นานกว่า 12 สัปดาห์ อาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น ภูมิแพ้ ความผิดปกติทางกายวิภาค และความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ทางเลือกในการรักษาโรคไซนัสอักเสบเรื้อรังอาจรวมถึงยาปฏิชีวนะ ยาลดน้ำมูก ยาสเตียรอยด์ และการผ่าตัด
นอกจากอาการเหล่านี้แล้ว ไซนัสอักเสบยังทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น:
* เยื่อหุ้มสมองอักเสบ: การติดเชื้อของเยื่อหุ้มสมองและไขสันหลัง
* ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด: การติดเชื้อทั่วร่างกายที่สามารถแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย
* ฝีในสมอง: การสะสมของหนองในสมอง
* กระดูกอักเสบ: การติดเชื้อของกระดูกของกะโหลกศีรษะ สิ่งสำคัญคือต้องไปพบแพทย์หากคุณพบอาการเหล่านี้ตามที่สามารถ ร้ายแรงและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสามารถวินิจฉัยโรคไซนัสอักเสบได้จากการตรวจร่างกาย ประวัติทางการแพทย์ และการทดสอบด้วยภาพ เช่น การเอกซเรย์หรือซีทีสแกน ทางเลือกการรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ แต่อาจรวมถึงยาปฏิชีวนะ ยาลดอาการคัดจมูก สเตียรอยด์ และการผ่าตัด