ทำความเข้าใจ Splenalgia: สาเหตุ อาการ และทางเลือกในการรักษา
ปวดเส้นม้ามเป็นภาวะที่พบไม่บ่อย โดยมีอาการปวดเรื้อรังในม้ามและเนื้อเยื่อโดยรอบ ม้ามเป็นอวัยวะที่อยู่ด้านซ้ายบนของช่องท้อง ใต้กะบังลมเล็กน้อย มีบทบาทสำคัญในการกรองเลือดและกักเก็บเกล็ดเลือดและเซลล์เม็ดเลือดแดง ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของอาการปวดกล้ามเนื้อม้าม แต่เชื่อกันว่าเกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บหรือการอักเสบของม้าม ภาวะนี้อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น:
1 การบาดเจ็บ: การถูกตีที่ช่องท้องหรือการบาดเจ็บสาหัสอาจทำให้ม้ามแตกและนำไปสู่อาการปวดกล้ามเนื้อม้ามได้
2 ภาวะการอักเสบ: ภาวะต่างๆ เช่น โรคเม็ดเลือดรูปเคียว ธาลัสซีเมีย และความผิดปกติของเลือดอื่นๆ อาจทำให้เกิดการอักเสบของม้าม ทำให้เกิดอาการปวดได้ 3. มะเร็ง: เนื้องอกในม้ามหรือเนื้อเยื่อรอบข้างอาจทำให้เกิดอาการปวดและปวดม้ามได้ ตับอ่อนอักเสบ: การอักเสบของตับอ่อนอาจทำให้เกิดอาการปวดในม้ามได้เช่นกัน
5 สาเหตุอื่นๆ: สาเหตุที่พบไม่บ่อยอื่นๆ ของอาการปวดม้าม ได้แก่ การติดเชื้อ เช่น เยื่อบุหัวใจอักเสบหรือวัณโรค และความผิดปกติทางพันธุกรรมบางอย่าง อาการของอาการปวดม้ามอาจรวมถึง:
1 ปวดท้องด้านซ้ายบนที่อาจลามไปถึงหลังหรือไหล่
2 อาการเจ็บบริเวณม้าม 3. ไข้.
4. ความเมื่อยล้า.
5. สูญเสียความอยากอาหาร 6. คลื่นไส้อาเจียน.7. ท้องอืด.
8. ความอ่อนแอ
การวินิจฉัยโรคม้ามโตขึ้นอยู่กับการตรวจร่างกาย ประวัติการรักษาพยาบาล และการทดสอบวินิจฉัย เช่น:
1 การศึกษาเกี่ยวกับภาพ เช่น CT scan หรือ MRI เพื่อให้เห็นภาพม้ามและเนื้อเยื่อโดยรอบ
2 การตรวจเลือดเพื่อตรวจหาเครื่องหมายการอักเสบและจำนวนเม็ดเลือด 3 การส่องกล้องเพื่อตรวจตับอ่อนและท่อน้ำดี
4 การตัดชิ้นเนื้อเพื่อยืนยันการวินิจฉัย
การรักษาอาการปวดม้ามขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริงและอาจรวมถึง:
1 การจัดการความเจ็บปวดด้วยยา 2. ยาปฏิชีวนะสำหรับการติดเชื้อ3. การผ่าตัดเพื่อเอาม้ามออก (ตัดม้าม) หรือซ่อมแซมความเสียหายใดๆ
4 การรักษามะเร็งหากสาเหตุคือเนื้องอก
5 การจัดการภาวะที่ซ่อนอยู่ เช่น โรคเม็ดเลือดรูปเคียวหรือธาลัสซีเมีย จำเป็นต้องไปพบแพทย์หากคุณมีอาการปวดอย่างต่อเนื่องในช่องท้องด้านซ้ายบน เนื่องจากอาการปวดม้ามอาจเป็นสัญญาณของภาวะต้นแบบที่ร้ายแรงกว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสามารถวินิจฉัยและแนะนำทางเลือกการรักษาที่เหมาะสมได้