ทำความเข้าใจ Splenodynia: สาเหตุ อาการ และทางเลือกในการรักษา
ม้ามเป็นภาวะที่พบไม่บ่อย โดยมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงซ้ำๆ มักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องร่วงร่วมด้วย สาเหตุที่แท้จริงของภาวะม้ามโตไม่เป็นที่เข้าใจกันดีนัก แต่คิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการที่ม้ามไม่สามารถกรองเซลล์เม็ดเลือดได้อย่างเหมาะสม หรือมีการอักเสบในม้าม สาเหตุที่เป็นไปได้หลายประการของภาวะม้ามโต ได้แก่:
1 โรคเคียวเซลล์: นี่คือความผิดปกติทางพันธุกรรมที่ส่งผลต่อการผลิตฮีโมโกลบินซึ่งเป็นโปรตีนในเซลล์เม็ดเลือดแดง ผู้ที่เป็นโรคเคียวเซลล์มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ม้าม เช่น ม้ามโต (ม้ามโต) และม้ามโต 2 ธาลัสซีเมีย: นี่เป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมอีกประการหนึ่งที่ส่งผลต่อการผลิตฮีโมโกลบิน ผู้ที่เป็นโรคธาลัสซีเมียยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ม้ามโตและม้ามโต3 ความผิดปกติของเลือดที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม: ความผิดปกติของเลือดที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมบางอย่าง เช่น โรคเม็ดเลือดแดงที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมและโรคโลหิตจางจากเซลล์เม็ดเลือดแดงรูปไข่ สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะม้ามโตได้ ความผิดปกติของภูมิต้านตนเอง: ความผิดปกติของภูมิต้านตนเองบางอย่าง เช่น systemic lupus erythematosus และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ อาจทำให้เกิดการอักเสบในม้ามและนำไปสู่ภาวะม้ามโตได้ การติดเชื้อ: การติดเชื้อบางอย่าง เช่น mononucleosis และ endocarditis อาจทำให้เกิดการอักเสบในม้ามและนำไปสู่ม้ามโต6 การบาดเจ็บ: การบาดเจ็บทางร่างกายที่ช่องท้อง เช่น การถูกกระแทกที่ด้านซ้ายบน อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บที่ม้ามและนำไปสู่ภาวะม้ามโตได้ 7 มะเร็ง: มะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลืองและมะเร็งเม็ดเลือดขาว อาจส่งผลต่อม้ามและทำให้เกิดอาการม้ามโตได้ การรักษาด้วยการฉายรังสี: การฉายรังสีบริเวณช่องท้องสามารถทำลายม้ามและทำให้เกิดภาวะม้ามโตได้9 ม้ามตาย: นี่คือภาวะที่เลือดไปเลี้ยงม้ามถูกขัดจังหวะ นำไปสู่การอักเสบและความเจ็บปวด10 สาเหตุอื่นๆ: สาเหตุอื่นๆ ที่เป็นไปได้ของม้ามโต ได้แก่ ตับอ่อนอักเสบ ไส้ติ่งอักเสบ และโรคถุงผนังลำไส้อักเสบ
อาการของม้ามโตอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริง แต่อาจรวมถึง:
* อาการปวดท้องอย่างรุนแรง มักเกิดที่ด้านซ้ายบนของช่องท้อง
* คลื่นไส้ และอาเจียน* ท้องร่วงหรือท้องผูก
* ไข้* หนาวสั่น* เบื่ออาหาร
* อ่อนแรงและเหนื่อยล้า
หากคุณพบอาการเหล่านี้ สิ่งสำคัญคือต้องไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณจะทำการตรวจร่างกายและอาจสั่งการตรวจวินิจฉัย เช่น การตรวจเลือดและการศึกษาเกี่ยวกับภาพ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการของคุณ การรักษาภาวะม้ามโตจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริง แต่อาจรวมถึงการจัดการความเจ็บปวด ยาปฏิชีวนะ และการผ่าตัดในบางกรณี