ปัญหาเล็บที่พบบ่อยและสาเหตุ
ปัญหาเล็บอาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงการติดเชื้อรา การติดเชื้อแบคทีเรีย และสภาวะอื่นๆ เช่น การบาดเจ็บที่เล็บหรือโรคสะเก็ดเงินที่เล็บ ปัญหาเล็บที่พบบ่อยได้แก่:
1. การติดเชื้อรา: สาเหตุเหล่านี้เกิดจากเชื้อราที่ติดเชื้อบริเวณเล็บ และอาจทำให้เล็บเปลี่ยนสี หนาขึ้น และเปราะได้ การติดเชื้อแบคทีเรีย: อาจเกิดจากแบคทีเรีย เช่น Staphylococcus aureus และอาจทำให้เกิดอาการแดง บวม และมีหนองบริเวณเล็บได้3 อาการบาดเจ็บที่เล็บ: อาการนี้อาจเกิดขึ้นเมื่อเล็บได้รับบาดเจ็บหรือเสียหาย ทำให้เกิดอาการปวด บวม และเล็บยาวขึ้นมาได้ยาก
4 โรคสะเก็ดเงินที่เล็บ: นี่คือภาวะที่เล็บหนา เปราะ และเปลี่ยนสีเนื่องจากการอักเสบที่เกิดจากโรคสะเก็ดเงิน
5 เล็บเท้าคุด: อาการนี้เกิดขึ้นเมื่อขอบเล็บยาวเข้าไปในผิวหนัง ทำให้เกิดอาการปวด แดง และบวม
6 เชื้อราที่นิ้วเท้า: นี่เป็นภาวะทั่วไปที่อาจทำให้เล็บเปลี่ยนสี หนาขึ้น และเปราะได้7. การบาดเจ็บที่เตียงเล็บ: สิ่งเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อเตียงเล็บได้รับบาดเจ็บ ทำให้เกิดอาการปวด บวม และยากที่จะงอกออกจากเล็บ
8 มะเร็งเล็บ: นี่เป็นภาวะที่พบไม่บ่อยซึ่งอาจทำให้รูปร่าง สี และเนื้อสัมผัสของเล็บเปลี่ยนแปลงได้9. มะเร็งผิวหนังที่เล็บ: นี่คือมะเร็งผิวหนังชนิดหนึ่งที่อาจส่งผลต่อเล็บ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง สี และเนื้อสัมผัสของเล็บ10 เม็ดสีที่เล็บ: สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อมีการสะสมของเม็ดสีที่ผิดปกติในเล็บ ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนสี สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าปัญหาเล็บบางอย่างอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ ดังนั้น หากคุณสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงหรือความผิดปกติใด ๆ ในเล็บของคุณ เล็บ เป็นความคิดที่ดีที่จะปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม



