มะเร็งทวารหนัก: ประเภท อาการ ปัจจัยเสี่ยง และทางเลือกในการรักษา
มะเร็งทวารหนักเป็นมะเร็งชนิดหนึ่งที่ส่งผลต่อทวารหนักซึ่งเป็นช่องเปิดที่ส่วนท้ายของระบบทางเดินอาหาร เป็นมะเร็งรูปแบบที่พบไม่บ่อย แต่สามารถลุกลามและรักษาได้ยากหากตรวจไม่พบตั้งแต่เนิ่นๆ มะเร็งทวารหนักมีหลายประเภท ได้แก่:
1 มะเร็งเซลล์สความัส: นี่เป็นมะเร็งทวารหนักชนิดที่พบบ่อยที่สุด และเกิดขึ้นในเซลล์ที่อยู่ชั้นนอกของทวารหนัก
2 มะเร็งของต่อม: มะเร็งทวารหนักประเภทนี้เกิดขึ้นในต่อมใกล้ทวารหนัก
3 เมลาโนมา: นี่เป็นมะเร็งทวารหนักชนิดที่พบไม่บ่อยซึ่งเกิดขึ้นในเซลล์ที่สร้างเม็ดสีของทวารหนัก
4 มะเร็งเซลล์ต้นกำเนิด: เป็นมะเร็งทวารหนักประเภทที่เติบโตช้าซึ่งเกิดขึ้นในเซลล์ที่อยู่ชั้นล่างสุดของทวารหนัก อาการของโรคมะเร็งทวารหนักอาจรวมถึง:
1 มีเลือดออกจากทวารหนัก2. ปวดหรือไม่สบายระหว่างการเคลื่อนไหวของลำไส้3. รู้สึกคันหรือแสบร้อนบริเวณทวารหนัก4 มีก้อนใกล้ทวารหนัก5. มีสารคัดหลั่งผิดปกติจากทวารหนักหากคุณพบอาการใดๆ เหล่านี้ จำเป็นต้องไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุดเพื่อทำการประเมินและวินิจฉัยเพิ่มเติม ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งทวารหนัก ได้แก่:
1 การติดเชื้อ Human papillomavirus (HPV): HPV เป็นไวรัสติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อยซึ่งสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งทวารหนัก
2 การร่วมเพศทางทวารหนัก: การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งทวารหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีคู่นอนหลายคนหรือไม่ใช้ถุงยางอนามัย3 ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ: ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ที่ติดเชื้อ HIV/AIDS จะมีโอกาสเสี่ยงต่อมะเร็งทวารหนักมากกว่า อายุ: มะเร็งทวารหนักพบได้บ่อยในผู้ที่มีอายุเกิน 50.
5 ปี การสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งทวารหนัก
หากคุณได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งทวารหนัก ทางเลือกในการรักษาอาจรวมถึง:
1 การผ่าตัด: การรักษาเบื้องต้นสำหรับมะเร็งทวารหนักคือการผ่าตัดเพื่อเอาเนื้องอกและเนื้อเยื่อโดยรอบบางส่วนออก
2 การบำบัดด้วยรังสี: สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการใช้รังสีพลังงานสูงเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง
3 เคมีบำบัด: สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการใช้ยาเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง
4 การบำบัดด้วยภูมิคุ้มกัน: สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการใช้ยาหรือการรักษาอื่น ๆ เพื่อเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเพื่อต่อสู้กับโรคมะเร็ง
สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ การตรวจพบและการรักษามะเร็งทวารหนักตั้งแต่เนิ่นๆ สามารถช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตได้ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องตระหนักถึงปัจจัยเสี่ยงและอาการ และไปพบแพทย์หากคุณพบอาการผิดปกติใดๆ