วัสดุนำไฟฟ้า: คำจำกัดความ ตัวอย่าง และการประยุกต์
วัสดุนำไฟฟ้าคือวัสดุที่ให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านโดยมีความต้านทานน้อยที่สุด วัสดุเหล่านี้มีค่าการนำไฟฟ้าสูง ซึ่งหมายความว่าสามารถส่งกระแสไฟฟ้าได้ง่าย ตัวอย่างของวัสดุนำไฟฟ้า ได้แก่ ทองแดง อลูมิเนียม ทอง และเงิน วัสดุเหล่านี้มักจะใช้ในการเดินสายไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้าเนื่องจากสามารถนำไฟฟ้าได้ดี ตัวอย่างอื่นๆ ของวัสดุนำไฟฟ้า ได้แก่ พลาสติกและผ้าบางชนิดที่ได้รับการบำบัดเพื่อให้เป็นสื่อกระแสไฟฟ้า วัสดุนำไฟฟ้าสามารถพบได้ในการใช้งานที่หลากหลาย รวมถึง: การเดินสายไฟฟ้าและวงจรต่างๆ
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน การปลูกถ่ายทางการแพทย์ เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจและการปลูกถ่ายประสาทหูเทียม การบินและอวกาศและ อุตสาหกรรมยานยนต์
สิ่งทอและผ้าที่ใช้ในเสื้อผ้าและเบาะ
อะไรคือความแตกต่างระหว่างวัสดุที่เป็นสื่อกระแสไฟฟ้าและไม่นำไฟฟ้า?
วัสดุที่ไม่นำไฟฟ้าคือวัสดุที่ไม่อนุญาตให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้อย่างง่ายดาย วัสดุเหล่านี้มีค่าการนำไฟฟ้าต่ำ ซึ่งหมายความว่านำไฟฟ้าได้ไม่ดี ตัวอย่างของวัสดุที่ไม่นำไฟฟ้า ได้แก่ ไม้ ยาง และพลาสติกส่วนใหญ่ วัสดุเหล่านี้มักใช้ในการใช้งานที่จำเป็นต้องปิดกั้นหรือแยกกระแสไฟฟ้า เช่น ในฉนวนหรือสารเคลือบป้องกัน ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างวัสดุที่เป็นสื่อกระแสไฟฟ้าและไม่นำไฟฟ้าคือความสามารถในการส่งกระแสไฟฟ้า วัสดุที่เป็นสื่อกระแสไฟฟ้ายอมให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ง่าย ในขณะที่วัสดุที่ไม่นำไฟฟ้าไม่อนุญาต ความแตกต่างนี้เกิดจากวิธีการจัดเรียงอะตอมในวัสดุ ในวัสดุที่เป็นสื่อกระแสไฟฟ้า อะตอมจะถูกจัดเรียงในลักษณะที่ช่วยให้กระแสไฟฟ้าไหลได้ง่าย ในขณะที่ในวัสดุที่ไม่นำไฟฟ้า อะตอมจะถูกจัดเรียงในลักษณะที่บล็อกไฟฟ้า วัสดุที่เป็นสื่อกระแสไฟฟ้ามีการนำไปใช้งานมากมายในอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ในขณะที่วัสดุที่ไม่นำไฟฟ้า วัสดุมักใช้ในการใช้งานที่จำเป็นต้องปิดกั้นหรือแยกกระแสไฟฟ้า