เตียรอยด์: ประเภท, ลักษณะพิเศษ, และผลข้างเคียง
สเตียรอยด์เป็นสารประกอบอินทรีย์ชนิดหนึ่งที่มีโครงสร้างทางเคมีเฉพาะ พบได้ตามธรรมชาติในร่างกายและสังเคราะห์ขึ้นเพื่อใช้ในการใช้งานต่างๆ สเตียรอยด์มีผลกระทบมากมายต่อร่างกาย รวมถึงการลดการอักเสบ การปรับระบบภูมิคุ้มกัน และการควบคุมฮอร์โมน สเตียรอยด์มีหลายประเภท ได้แก่:
1 คอร์ติโคสเตียรอยด์: ใช้รักษาโรคต่างๆ เช่น โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ และโรคภูมิต้านตนเอง ออกฤทธิ์โดยการลดการอักเสบและระงับระบบภูมิคุ้มกัน ตัวอย่างของคอร์ติโคสเตียรอยด์ ได้แก่ เพรดนิโซนและไฮโดรคอร์ติโซน
2 อะนาโบลิกสเตียรอยด์: เหล่านี้เป็นฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนสังเคราะห์ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชายที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตและการพัฒนาของกล้ามเนื้อ นักกีฬามักใช้อะนาโบลิกสเตียรอยด์เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ แต่อาจมีผลข้างเคียงที่ร้ายแรง เช่น ความเสียหายของตับและปัญหาหัวใจและหลอดเลือด ตัวอย่างของอะนาโบลิกสเตียรอยด์ ได้แก่ เทสโทสเทอโรนและเทรนโบโลน
3 สเตียรอยด์เอสโตรเจน: เป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนสังเคราะห์ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงที่ควบคุมการทำงานของระบบสืบพันธุ์ เอสโตรเจนสเตียรอยด์ใช้ในการรักษาสภาวะต่างๆ เช่น วัยหมดประจำเดือนและมะเร็งเต้านม ตัวอย่างของเอสโตรเจนสเตียรอยด์ ได้แก่ เอทินิล เอสตราไดออล และไดเอทิลสติลเบสตรอล.
4 Progestogenic steroids: เป็นฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสังเคราะห์ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมรอบประจำเดือนและการตั้งครรภ์ Progestogenic steroids ใช้ในการรักษาภาวะต่างๆ เช่น ภาวะมีบุตรยากและเนื้องอกในมดลูก ตัวอย่างของ progestogenic steroids ได้แก่ medroxyprogesterone acetate และ norethindrone สเตียรอยด์อาจมีผลทั้งเชิงบวกและเชิงลบต่อร่างกาย ขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณที่ใช้ ผลข้างเคียงที่พบบ่อยบางประการของสเตียรอยด์ได้แก่:
* น้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือลดลง
* การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ เช่น ความวิตกกังวลหรือภาวะซึมเศร้า
* การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการนอนหลับ
* ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการติดเชื้อ
* ความอยากอาหารเปลี่ยนแปลงไป
* การกักเก็บน้ำหรืออาการบวมน้ำ* สิว* ผมร่วง
* การเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง เช่น การทำให้ผอมบางหรือการเปลี่ยนสี
สเตียรอยด์อาจมีผลข้างเคียงที่รุนแรงกว่า เช่น:
* ความเสียหายของตับ
* ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด เช่น ความดันโลหิตสูงและหัวใจวาย
* ความเสียหายของไต
* ความเสียหายของกระดูก
* ความไม่สมดุลของฮอร์โมน
* ปัญหาทางจิตวิทยา เช่น ความก้าวร้าวและ อารมณ์แปรปรวน สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าสเตียรอยด์สามารถเสพติดได้ และการใช้ในระยะยาวอาจนำไปสู่การติดยาและอาการถอนยาเมื่อหยุดยา นอกจากนี้ สเตียรอยด์ยังสามารถโต้ตอบกับยาอื่นๆ และทำให้อาการป่วยบางอย่างแย่ลงได้ ดังนั้นจึงควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้ยาสเตียรอยด์



