Enterolobium: กระถินดำที่ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง
Enterolobium เป็นพืชสกุลไม้ดอกในวงศ์ Fabaceae หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ Black acacia หรือ African acacia ชื่อเอนเทอโรโลเบียมมาจากคำภาษากรีกว่า "เอนเทอรอน" แปลว่าลำไส้ และ "โลโบ" แปลว่ากลีบ ซึ่งหมายถึงรูปร่างของฝักเมล็ด เอนเทอโรโลเบียมมีอยู่สองสายพันธุ์:
1 Enterolobium cyclocarpum - สายพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกาเขตร้อนและมักพบในทุ่งหญ้าสะวันนาและทุ่งหญ้า เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบที่สามารถเติบโตได้สูงถึง 20 เมตร มีมงกุฎแบนกว้างและกิ่งก้านบางยาว ใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อย 4-6 คู่ มีสีเขียวเข้มและเป็นมัน ดอกมีสีขาวอมเหลืองและออกเป็นกระจุก ตามมาด้วยฝักเมล็ดที่โค้งงอคล้ายลำไส้
2 Enterolobium contortum - สายพันธุ์นี้พบในแอฟริกาเขตร้อนและแอฟริกาตอนใต้ และยังเป็นที่รู้จักในชื่อ "อะคาเซียสีดำบิด" เป็นไม้ต้นผลัดใบที่สามารถเติบโตได้สูงถึง 15 เมตร มีมงกุฎแบนกว้างและกิ่งก้านบางยาว ใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อย 4-6 คู่ มีสีเขียวเข้มและเป็นมัน ดอกมีสีขาวอมเหลืองและออกเป็นกระจุก ตามมาด้วยฝักเมล็ดที่บิดเป็นเกลียวและโค้งงอ
ต้น Enterolobium มีประโยชน์หลายประการ ได้แก่:
1 ไม้ซุง - ไม้ของต้นเอนเทอโรโลเบียมมีน้ำหนัก แข็ง และทนทาน ทำให้มีคุณค่าในการก่อสร้างและทำเฟอร์นิเจอร์
2 เชื้อเพลิง - ไม้ของต้นเอนเทอโรโลเบียมยังใช้เป็นเชื้อเพลิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชนบทที่แหล่งพลังงานอื่นอาจขาดแคลน3 การแพทย์ - เปลือกและใบของต้นเอนเทอโรโลเบียมถูกนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรเพื่อรักษาโรคต่างๆ รวมถึงไข้ โรคไขข้อ และปัญหาทางเดินอาหาร
4 อาหาร - ฝักเมล็ดของต้นเอนเทอโรโลเบียมนั้นกินได้และสามารถคั่วหรือบดเป็นแป้งสำหรับทำขนมปังได้5 การควบคุมการพังทลาย - รากลึกของต้นเอนเทอโรโลเบียมช่วยรักษาเสถียรภาพของดินและป้องกันการกัดเซาะ ทำให้มีประโยชน์สำหรับการอนุรักษ์และฟื้นฟูที่ดิน



